ลวดสลิง
ลวดสลิงนั้นถูกผลิดขึ้นจากลวดหลากหลายเกรด ซึ่งจะแบ่งตาม จามความแข็งแรงของลวดที่นำมาใช้ผลิต เกรดของลวดสลิงจะมีดังต่อไปนี
ISO |
Metric | American |
1470 N/mm2 |
150 kgf/ mm2 |
Traction Steel |
1570 N/mm2 |
160 kgf/ mm2 |
Plow Steel |
1770 N/mm2 |
180 kgf/ mm2 |
Improved Plow Steel |
1960 N/mm2 | 200 kgf/ mm2 |
Extra Improved Plow Steel |
การวัดขนาดลวดสลิงที่ถูกต้อง ต้องใช้ Veneer Caliper ในการวัด และจะวัดในส่วนทีใหญ่ที่สุดของลวดสลิง ดังรูป
จากรูป โดยทั่วไปลวดสลิงจะประกอบไปด้วย เกลียวลวด และพันรอบแกนกลาง ลวดสลิงที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดจะมี 6 หรือ 8 เกลียว แต่ยังมีมีโครงสร้างพิเศษอีกมากมายแตกต่างกันตามการใช้งาน โดยในแต่ละเกลียวของลวดสลลิงยังประกอบไปด้วยลวดเส้นเล็กๆ แกนกลางของลวดสลิงยังแบ่งออกเป็น สองประเภทหลักๆ 1.FC ใส้เชือก 2. IWRC ใส้เหล็ก
ลวดเหล็ก
ลวดเหล็กนั้นถูกใช้ในการการผลิตลวดสลิง โดยอายุการใช้งานของลวดสลิงนั้นจะขึ้นอยู่กับสองปัจจัยคือ สึกหลอ และ ความเสื่อมของลวด ซึ่งการขึ้นสนิมไม่ได้มีผลกับอายุของสลิง และการเกิดสนิมสามารถป้องกันได้โดยการใช้น้ำมันหล่อลื่นเคลื่อลวดสลิงไว้ไม่ให้สัมพัสกับอาการลวดดึงชุบกัลวาไนซ์
ลวดนั้นจะถูกเตรียมโดยมีขนาดใหญ่กว่าขนาดที่ต้องการและนำไปชุบสังกะสี จากนั้นลวดจะถูกดึงผ่านรูเพื่อให้ลวดนั้นมีขนาดตามที่ต้องการและยังเป็นการทำให้ลวดกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมกลังจากการชุปสังกะสี ซึ่งความเร็วและขนาดของรูนั้นก็ส่งผมกับความแข็งแรงของลวดสลิง
ในลวดสลิงจะประกอบไปด้วยเกลียวของสลิง 2 ชั้น หรือมากกว่า โดยแต่ละโครงสร้างของลวดสลิงนั้นส่งผลต่อ ความทนทาน ดั้งนั้นการเลือกเกลียวของ ลวดสลิง นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะยืดอายุการใช้งานของลวดสลิง โดยทั่วไปแล้วนั้น ลวดสลิงที่มีจำนวนของเส้นลวดมากและมีขนาดลวดเล็ก จะมีความทนทานต่อการเสียดสีน้อยกว่า ลวดสลิงที่มีขนาดเส้นลวดใหญ่แล้วจำนวนลวดน้อย ในทางกลับกัน ในลวดสลิงขนาดเดียวกัน ถ้าจำนวนเส้นลวดน้อยและขนาดใหญ่จะมีความทนต่อความล้า น้อยกว่าลวดสลิงที่มีจำนวนลวดมากและขนาดเล็ก ด้วยเหตูนี้ลวดสลิงจิงมีการผสมผสานระหว่างลวดขนาดเล็กและลวดขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้มีคุณลักษณะแตกต่างออกไปตามการใช้งาน และสามารถจำแนกออกได้เป็น 5 ประเภท
- Single Layer เป็นชนิดโครงสร้างที่เรียบง่ายที่สุด โดยมีลวดที่พันอยู่รอกแกนกลางเพียงชั้นเดียว โดยลวดแต่ละเส้นมีขนาดเท่ากัน
- Seale โครงสร้างนี้เป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น โดยมีชั้นเกลียว 2 ชั้น โดยด้านในจะเป็นเส้นลวดขนาดเล็ก และชั้นนอกจะเป็นลวดขนาดใหญ่
- Filler wire โครงสร้างนี้จะเป็น โครงสร้างสองชั้นโดยที่ ลวดชั้นแรกและชั้นที่สองมีขนาดเท่ากัน แต่จะมีลวดขนาดเล็ก เข้ามาแทรกอยู่ระหว่างลวดชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง
- Warrington โครงสร้างนี้ จะเป็นโครงสร้างสองชั้นเช่นกันแต่ ในชั้นที่สองจะมีการใช้ลวดสองขนาดที่แตกต่างกัน
- Combined Patterns เป็นการรวม กันของลักษณะโครงสร้างแต่ละแบบเพื่อสร้างโครงสร้างของลวดให้เหมาะกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น 2 ชั้นแรกของลวดจะใช้เป็นโครงสร้าง Seale และชั้นที่ 3 เป็นโครงสร้างแบบ Warrington และชั้นสุดท้ายเป็น Seale อีกทีเพื่อเพิ่มการทนต่อการเสียสี
เกลียวของลวดสลิงจะแบบออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ
- เกลียวธรรมดา ซึ่งเกลียวธรรมดาจะแบ่งออกเป็นเกลียวซ้าย และ เกลียวขวา ในแต่ละเกลียวเล็กจะตีเกลียวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเกลียวหลัก
- เกลียว Lang ซึ่งก็จะเป็น เกลียวซ้ายและขวาอีกเช่นกัน ในแต่ละเกลียวเล็กจะตีเกลียวไปในทิศทางเดียวกับเกลียวหลัก
โซ่ VS ลวดสลิง
ลวดสลิง
ลวดสลิงเป็นอุปกรณ์ในการยกที่มีความนิยมใช้เป็นอย่างมากด้วยหลายเหตุผล ลวดสลิงประกอบขึ้นจากเส้นลวดเล็กๆหลายๆเส้นที่ถูกถักรวมกันให้เป็นลวดสลิง จึงทำให้ลวดสลิงมีความแข็งแรง แต่ยืดหยุ่น และยังสามารถทนต่อการหักงอได้ดี จึงทำให้ลวดสลิงเป็นที่นิยม ในกลุ่มอุตสาหกรรม รถยนต์ น้ำมัน รวมไปถึงงานยกทั่วไปข้อดี
- ราคาถูกกว่าในระยะสั้น
- มีความแข็งแรง และมีความยืดหยุ่น
- ลวดสลิงมีหลากหลายโครงสร้างจึงสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานได้
- สามารถยกได้ทั้งแนวตรง พันรอบวัตถุ
- หากลวดสลิงเสียหาย อุปกรณ์เช่นตะขอ สเก็น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ข้อเสีย
- ความแข็งแรงต่อน้ำหนักต่ำ
- ด้วยโครงสร้างของลวดสลิงทำให้การตรวจสอบสะภาพภายในเป็นไปได้ยาก
- ผู้ใช้งานต้องมีความรู้ เนื่องจากลวดสลิงอาจจะมีความเสียหายได้หากใช้งานไม่ถูกหลัก
- ไม่สามารถซ่อมแซมได้
โซ่อัลลอยด์
เมื่อพูดถึงแง่ความทนทาน โซ่อัลลอยด์คือ อันดับหนึ่ง โซ่อัลลอยด์ยังสามารถ ทนต่อแรงกระแทก และยังสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิที่สูงข้อดี
- แข็งแรง ทนทาน ที่สุด
- สามารถซ่อมเฉพาะส่วนที่ชำรุด
- สามารถตรวจสอบความเสียหายได้ง่าย
- สามารถใช้กับงานที่มอุณหภูมิสูงได้
- ทนต่อการเกิดสนิม
- โซ่จะยืดตัวเมื่อเกิดการยกเกินน้ำหนักซึงสามารถตรวจสอบและสังเกตุเห็นได้ง่าย
ข้อเสีย
- มีน้ำหนักมาก
- มีราคาที่สูงกว่า
- สามารถทำความเสียหายให้กับวุตถุที่ไปยกได้มาก
โซ่
โซ่ VS ลวดสลิง
ลวดสลิง
ลวดสลิงเป็นอุปกรณ์ในการยกที่มีความนิยมใช้เป็นอย่างมากด้วยหลายเหตุผล ลวดสลิงประกอบขึ้นจากเส้นลวดเล็กๆหลายๆเส้นที่ถูกถักรวมกันให้เป็นลวดสลิง จึงทำให้ลวดสลิงมีความแข็งแรง แต่ยืดหยุ่น และยังสามารถทนต่อการหักงอได้ดี จึงทำให้ลวดสลิงเป็นที่นิยม ในกลุ่มอุตสาหกรรม รถยนต์ น้ำมัน รวมไปถึงงานยกทั่วไปข้อดี
- ราคาถูกกว่าในระยะสั้น
- มีความแข็งแรง และมีความยืดหยุ่น
- ลวดสลิงมีหลากหลายโครงสร้างจึงสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานได้
- สามารถยกได้ทั้งแนวตรง พันรอบวัตถุ
- หากลวดสลิงเสียหาย อุปกรณ์เช่นตะขอ สเก็น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ข้อเสีย
- ความแข็งแรงต่อน้ำหนักต่ำ
- ด้วยโครงสร้างของลวดสลิงทำให้การตรวจสอบสะภาพภายในเป็นไปได้ยาก
- ผู้ใช้งานต้องมีความรู้ เนื่องจากลวดสลิงอาจจะมีความเสียหายได้หากใช้งานไม่ถูกหลัก
- ไม่สามารถซ่อมแซมได้
โซ่อัลลอยด์
เมื่อพูดถึงแง่ความทนทาน โซ่อัลลอยด์คือ อันดับหนึ่ง โซ่อัลลอยด์ยังสามารถ ทนต่อแรงกระแทก และยังสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิที่สูงข้อดี
- แข็งแรง ทนทาน ที่สุด
- สามารถซ่อมเฉพาะส่วนที่ชำรุด
- สามารถตรวจสอบความเสียหายได้ง่าย
- สามารถใช้กับงานที่มอุณหภูมิสูงได้
- ทนต่อการเกิดสนิม
- โซ่จะยืดตัวเมื่อเกิดการยกเกินน้ำหนักซึงสามารถตรวจสอบและสังเกตุเห็นได้ง่าย
ข้อเสีย
- มีน้ำหนักมาก
- มีราคาที่สูงกว่า
- สามารถทำความเสียหายให้กับวุตถุที่ไปยกได้มาก