Wire Rope 6x29Fi+IWRC

ลวดสลิง 6x29FI + FC เป็นลวดสลิงที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป

  • งานยกทั่วไป
  • รอก
  • บ่อน้ำมัน

Description

ลวดสลิง ที่ทาง ยู.ที.ลิฟท์ติ้ง เทค จำหน่าย สามารถสั่งตัดได้ตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ หรือสั่งทำชุดลวดสลิง 1 ขา 2 ขา 3 ขา หรือ 4 ขา ด้วยเครื่องอัดปลอกสลิงจาก Sweden โดยสามารถให้วิศวกรจากทางเราคำนวณขนาดของลวดสลิงและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

Diameter mm TIS 514 – 2527
Min. Breaking Load (KN) Approx. Weight (Kg/100m)
1670 N/mm2 1770N/mm2
12 74.6 84.1 54.7
13 87.5 98.7 84.3
14 102 114 74.5
16 133 149 97.3
18 168 189 123
20 207 234 152
22 251 283 184
24 298 336 219
26 350 395 257
28 406 458 298
32 530 598 389

การวัดขนาดลวดสลิง

การวัดขนาดลวดสลิงที่ถูกต้อง ต้องใช้ Veneer Caliper ในการวัด และจะวัดในส่วนทีใหญ่ที่สุดของลวดสลิง ดังรูป

 

เกรดของลวดสลิง

ลวดสลิงนั้นถูกผลิดขึ้นจากลวดหลากหลายเกรด ซึ่งจะแบ่งตาม  จามความแข็งแรงของลวดที่นำมาใช้ผลิต เกรดของลวดสลิงจะมีดังต่อไปนี้

  • 1470 N/mm2 = 150 kgf/ mm2
  • 1570 N/mm2 = 160 kgf/ mm2
  • 1770 N/mm2 = 180 kgf/ mm2
  • 1960 N/mm2 = 200 kgf/ mm2
  • 2160 N/mm2 = 220 kgf/ mm2

 

เกลียวของลวดสลิง

ในลวดสลิงจะประกอบไปด้วยเกลียวของสลิง 2 ชั้น หรือมากกว่า โดยแต่ละโครงสร้างของลวดสลิงนั้นส่งผลต่อ ความทนทาน ดั้งนั้นการเลือกเกลียวของ ลวดสลิง นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะยืดอายุการใช้งานของลวดสลิง โดยทั่วไปแล้วนั้น ลวดสลิงที่มีจำนวนของเส้นลวดมากและมีขนาดลวดเล็ก จะมีความทนทานต่อการเสียดสีน้อยกว่า ลวดสลิงที่มีขนาดเส้นลวดใหญ่แล้วจำนวนลวดน้อย ในทางกลับกัน ในลวดสลิงขนาดเดียวกัน ถ้าจำนวนเส้นลวดน้อยและขนาดใหญ่จะมีความทนต่อความล้า น้อยกว่าลวดสลิงที่มีจำนวนลวดมากและขนาดเล็ก ด้วยเหตูนี้ลวดสลิงจิงมีการผสมผสานระหว่างลวดขนาดเล็กและลวดขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้มีคุณลักษณะแตกต่างออกไปตามการใช้งาน และสามารถจำแนกออกได้เป็น 5 ประเภท

  • Single Layer เป็นชนิดโครงสร้างที่เรียบง่ายที่สุด โดยมีลวดที่พันอยู่รอกแกนกลางเพียงชั้นเดียว โดยลวดแต่ละเส้นมีขนาดเท่ากัน
  • Seale โครงสร้างนี้เป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น โดยมีชั้นเกลียว 2 ชั้น โดยด้านในจะเป็นเส้นลวดขนาดเล็ก และชั้นนอกจะเป็นลวดขนาดใหญ่
  • Filler wire โครงสร้างนี้จะเป็น โครงสร้างสองชั้นโดยที่ ลวดชั้นแรกและชั้นที่สองมีขนาดเท่ากัน แต่จะมีลวดขนาดเล็ก เข้ามาแทรกอยู่ระหว่างลวดชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง
  • Warrington โครงสร้างนี้ จะเป็นโครงสร้างสองชั้นเช่นกันแต่ ในชั้นที่สองจะมีการใช้ลวดสองขนาดที่แตกต่างกัน
  • Combined Patterns เป็นการรวม กันของลักษณะโครงสร้างแต่ละแบบเพื่อสร้างโครงสร้างของลวดให้เหมาะกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น 2 ชั้นแรกของลวดจะใช้เป็นโครงสร้าง Seale และชั้นที่ 3 เป็นโครงสร้างแบบ Warrington และชั้นสุดท้ายเป็น Seale อีกทีเพื่อเพิ่มการทนต่อการเสียสี