Description
ลวดสลิง ที่ทาง ยู.ที.ลิฟท์ติ้ง เทค จำหน่าย สามารถสั่งตัดได้ตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ หรือสั่งทำชุดลวดสลิง 1 ขา 2 ขา 3 ขา หรือ 4 ขา ด้วยเครื่องอัดปลอกสลิงจาก Sweden โดยสามารถให้วิศวกรจากทางเราคำนวณขนาดของลวดสลิงและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน
Diameter mm | TIS 514 – 2527 | ||
Min. Breaking Load (KN) | Approx. Weight (Kg/100m) | ||
1670 N/mm2 | 1770N/mm2 | ||
12 | 74.6 | 84.1 | 54.7 |
13 | 87.5 | 98.7 | 84.3 |
14 | 102 | 114 | 74.5 |
16 | 133 | 149 | 97.3 |
18 | 168 | 189 | 123 |
20 | 207 | 234 | 152 |
22 | 251 | 283 | 184 |
24 | 298 | 336 | 219 |
26 | 350 | 395 | 257 |
28 | 406 | 458 | 298 |
32 | 530 | 598 | 389 |
การวัดขนาดลวดสลิง
การวัดขนาดลวดสลิงที่ถูกต้อง ต้องใช้ Veneer Caliper ในการวัด และจะวัดในส่วนทีใหญ่ที่สุดของลวดสลิง ดังรูป
เกรดของลวดสลิง
ลวดสลิงนั้นถูกผลิดขึ้นจากลวดหลากหลายเกรด ซึ่งจะแบ่งตาม จามความแข็งแรงของลวดที่นำมาใช้ผลิต เกรดของลวดสลิงจะมีดังต่อไปนี้
- 1470 N/mm2 = 150 kgf/ mm2
- 1570 N/mm2 = 160 kgf/ mm2
- 1770 N/mm2 = 180 kgf/ mm2
- 1960 N/mm2 = 200 kgf/ mm2
- 2160 N/mm2 = 220 kgf/ mm2
เกลียวของลวดสลิง
ในลวดสลิงจะประกอบไปด้วยเกลียวของสลิง 2 ชั้น หรือมากกว่า โดยแต่ละโครงสร้างของลวดสลิงนั้นส่งผลต่อ ความทนทาน ดั้งนั้นการเลือกเกลียวของ ลวดสลิง นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะยืดอายุการใช้งานของลวดสลิง โดยทั่วไปแล้วนั้น ลวดสลิงที่มีจำนวนของเส้นลวดมากและมีขนาดลวดเล็ก จะมีความทนทานต่อการเสียดสีน้อยกว่า ลวดสลิงที่มีขนาดเส้นลวดใหญ่แล้วจำนวนลวดน้อย ในทางกลับกัน ในลวดสลิงขนาดเดียวกัน ถ้าจำนวนเส้นลวดน้อยและขนาดใหญ่จะมีความทนต่อความล้า น้อยกว่าลวดสลิงที่มีจำนวนลวดมากและขนาดเล็ก ด้วยเหตูนี้ลวดสลิงจิงมีการผสมผสานระหว่างลวดขนาดเล็กและลวดขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้มีคุณลักษณะแตกต่างออกไปตามการใช้งาน และสามารถจำแนกออกได้เป็น 5 ประเภท
- Single Layer เป็นชนิดโครงสร้างที่เรียบง่ายที่สุด โดยมีลวดที่พันอยู่รอกแกนกลางเพียงชั้นเดียว โดยลวดแต่ละเส้นมีขนาดเท่ากัน
- Seale โครงสร้างนี้เป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น โดยมีชั้นเกลียว 2 ชั้น โดยด้านในจะเป็นเส้นลวดขนาดเล็ก และชั้นนอกจะเป็นลวดขนาดใหญ่
- Filler wire โครงสร้างนี้จะเป็น โครงสร้างสองชั้นโดยที่ ลวดชั้นแรกและชั้นที่สองมีขนาดเท่ากัน แต่จะมีลวดขนาดเล็ก เข้ามาแทรกอยู่ระหว่างลวดชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง
- Warrington โครงสร้างนี้ จะเป็นโครงสร้างสองชั้นเช่นกันแต่ ในชั้นที่สองจะมีการใช้ลวดสองขนาดที่แตกต่างกัน
- Combined Patterns เป็นการรวม กันของลักษณะโครงสร้างแต่ละแบบเพื่อสร้างโครงสร้างของลวดให้เหมาะกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น 2 ชั้นแรกของลวดจะใช้เป็นโครงสร้าง Seale และชั้นที่ 3 เป็นโครงสร้างแบบ Warrington และชั้นสุดท้ายเป็น Seale อีกทีเพื่อเพิ่มการทนต่อการเสียสี